.
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เตรียมนำพื้นที่ราชพัสดุแปลงสุขุมวิทสายเก่า ที่ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จำนวน 20 ไร่ ที่อยู่ติดกับสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดสร้างคอนโดมีเนียมสำหรับผู้สูงอายุ หรือ ซีเนียร์ คอมเพล็กซ์ โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ได้สิทธิ์เช่าระยะยาว 30 ปีขึ้นไป ซึ่งคาดว่าจะเปิดจองได้ภายในปลายปี 2563 และใช้เวลาการก่อสร้างประมาณ 2 ปีทั้งนี้ เบื้องต้นมีการออกแบบอาคารไว้ว่ามีจำนวนทั้งหมด 900 ยูนิต ขนาดต่อยูนิตไม่ต่ำกว่า 35 ตารางเมตร โดยจะขายสิทธิ์เช่าในราคายูนิตละ 1.8-1.9 ล้านบาท แต่กรมฯ จะร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อจูงใจให้ผู้สูงอายุ หรือบุตรหลานเช่าซื้อคอนโดมิเนียมได้มากขึ้น เมื่อได้จำนวนผู้จองสิทธิ์เช่าแล้ว ก็จะเปิดให้เอกชนประมูลลงทุน โดยคาดว่ามูลค่าลงทุนทั้งโครงการรวมมูลค่าที่ดินประมาณ 3,000 ล้านบาท
“เงื่อนไขการจองผู้จองต้องมีอายุ 58 ปีขึ้นไป เพื่อให้สามารถเข้าอยู่ได้เมื่ออายุ 60 ปี หรือบุตรหลานสามารถจองซื้อเพื่อให้สิทธิ์บุพการีเป็นผู้พักอาศัยได้ แต่เบื้องต้นอยากให้ผู้สูงอายุอยู่ 1 คนต่อ 1 ยูนิต โดยไม่ควรมีลูกหลานด้วย จึงต้องรับผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลัก คือผู้ที่ต้องการรักษาตัวในโรงพยาบาลรามาฯ อยู่แล้ว โดยตอนนี้รามามีรองรับผู้ป่วยได้ 400 เตียง แล้วก็มีศูนย์ดูแลผู้สูงอายุกำลังก่อสร้างอยู่ เชื่อว่าโครงการนี้จะได้รับความสนใจจากผู้สูงอายุแน่นอน” นายยุทธนา กล่าว
สำหรับการใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น จะแบ่งพื้นที่ 30% เพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ ทั้งสวนสาธารณะ มีสภาการแพทย์มาออกตรวจประจำ และมีพื้นที่สันทนาการเพื่อให้ผู้สูงอายุได้พบปะสังสรรค์กัน
ทั้งนี้ หากซีเนียร์ คอมเพล็กซ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ กรมจะพิจารณาเปิดเฟส 2 และ 3 ในเนื้อที่ 40 ไร่ ที่อยู่พื้นที่เดียวกัน เพื่อขยายให้ผู้สูงอายุที่ต้องการที่อยู่อาศัยพร้อมดูแลสุขภาพไปด้วย ได้อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยในเฟส 2 และ 3 นี้ จะเปิดให้ต่างชาติได้สิทธิ์เช่าดังกล่าวด้วย ซึ่งสามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นการเช่าระยะยาว ไม่ได้ขายสิทธิ์ขาดให้กับต่างชาติ
“การทำแบบนี้นอกจากจะทำให้สามารถใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว ยังเป็นการทำเพื่อสังคมมากขึ้นไปในตัวด้วย โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุ กรมยังมองว่าการทำโครงการขนาดใหญ่ขณะนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้ภาคเอกชนรับเหมาโครงการขนาดใหญ่ จะสามารถลดปัญหาการเลิกจ้างงานในช่วงโควิดได้ระดับหนึ่ง เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี”นายยุทธนา กล่าว