นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล เปิดเผยเรื่องราวว่า เตือนภัยฟันปลอมหลวมหลุดออกมากลืนลงไปติดค้างที่หลอดอาหาร อาจเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้หากไปอุดที่หลอดลม โดยเป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 80 ปี ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง ด้วยประวัติว่า ขณะรับประทานอาหารเช้าเสร็จ นั่งพักครึ่งชั่วโมง เอายาโรคประจำตัวมารับประทาน ขณะอ้าปากเงยหน้าขึ้นเพื่อเอายาเข้าปาก ฟันปลอมทั้งปากด้านบนเกิดหล่นลงมา ในจังหวะที่ยาอยู่ในปากแล้ว จึงเผลอกลืนลงไปทั้งยา และฟันปลอม
นาทีนั้นรู้สึกเหมือนจุกแค้นที่คอหายใจไม่ออก ต้องพยายามหายใจทางปากอ้าปากเอาไว้ เอามือล้วงในคอก็ไม่เจออะไร ขากเสมหะก็ไม่ออก เหมือนตนเองจะสิ้นใจ เจ็บในลำคออย่างมาก ญาติจึงตัดสินใจให้กินน้ำตามลงไปอีกครั้ง พร้อมข้าวปั้น ผู้ป่วยเล่าว่าเหมือนฟันปลอมครูดลงไปจนเจ็บปวดในยอดอกมาก หลังจากนั่นจึงนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้าน
แพทย์เวรได้ใช้เครื่องมืออ้าปากเพื่อใส่ท่อช่วยหายใจส่องดู พบว่ามีบาดแผลรอยช้ำ บวมมากในคอ มีเลือดไหลแต่ไม่เจอฟันปลอม ส่งเอกซเรย์ก็ไม่เห็นภาพทางรังสี เนื่องจากไม่มีโลหะปน คนไข้ปวดทรมาน แต่ยังพอหายใจเองได้ จึงประสานนำส่งโรงพยาบาลสิชล
ให้งดอาหารและน้ำ ให้น้ำเกลือ ยาระงับปวด ให้ออกซิเจน ศัลยแพทย์นำเข้าห้องผ่าตัดทันที เพื่อส่องกล้องเข้าไปดู วิสัญญีแพทย์เตรียมใส่ท่อช่วยหายใจหากหายใจลำบาก เมื่อส่องกล้องพบร่องรอยฟันปลอมครูดไปตลอดทาง และไปติดค้างอยู่ตรงตำแหน่งปลายสุดของหลอดอาหาร เป็นแนวขวาง ก่อนลงไปในกะเพาะอาหาร จึงใช้เครื่องมือสอดผ่านกล้องคืบดึงออกมาได้อย่างปลอดภัย หลอดอาหารแม้จะมีแผลแต่ไม่ทะลุ จึงให้น้ำเกลือต่อ งดอาหาร น้ำอีก 3วัน ให้กลับบ้านได้
จึงขอเตือนให้ระมัดระวัง ฟันปลอมหลวม แตกหัก ชำรุด ให้รีบไปปรึกษาทันตแพทย์.